เทศกาลสอบ
คงเป็นช่วงมีแต่ศพเดินได้ทั้งนั้น
ไฟนอลหรือไฟไหม้กันแน่
...
ณ หอสมุด
แหล่งรวมนกฮูกกันทั้งหลาย
อ่านบ้าง เล่นบ้าง แอบกินบ้าง กระจายตัวกัน ทั้งกลุ่มและเดี่ยว
“โอ๊ยยยย
ไม่อ่านแล้วโว้ย” พร้อมกับปาชีทลงข้างตัว
“...”
“ล้อเล่น ฮืออออ”
เก็บมาอ่านใหม่
“...”
“หนาว
เชี่ยนี้แอร์หอสมุดหรือโซนสัตว์ขั้วโลก” นั่งเป่ามือมาสักพักใหญ่
“...”
“หิว กี่โมงแล้ววะเนี้ย”
มองจอมือถือ
“...”
หน้าจอสว่างโชว์ตัวเลข 02.43 am ร่างบางยืดแขนขาตัวเองออก
บิดขี้เกียจไปมา ถอดแว่นพักหายใจ นี้เขาอ่านมานานแค่ไหนแล้ว
ถึงจะอ่านไปบ่นไปก็เถอะ
“อื้อ เมื่อย...”
จัดการเอาหน้าแนบกันโต๊ะที่อ่าน
วันนี้เขามาอ่านหอสมุดเพราะอากาศร้อนแอร์หอก็ล้าง คนอื่นก็กลับบ้าน
สิ่งมีชีวิตร่างบาง เลยแบกร่างตัวเองพร้อมกับกองชีทมายังหอสมุด
เพื่อคลายร้อนแต่กลับหนาวเป็นขั้วโลกสะงั้น
เสื้อกันหนาวที่หยิบมาก็บางเกินที่จะกันลมของแอร์ในหอสมุดได้ แต่ตอนนี้ หิว
.
หิวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
.
.
แต่การกระทำทั้งหมดก็ตกอยู่สายตาของโต๊ะข้างๆ ที่แอบมองเป็นระยะๆ
มีคนแอบอมยิ้มจนเมื่อยหน้า
“จะไปเซเว่น ใครเอาไรมั้ย?” มิงกยูพูดออกไปด้วยเสียงค่อนข้างดังให้โต๊ะข้างๆได้ยิน
“กูขอซีวิท”
“ชา”
“เอ็มร้อยขวด เยอะสาด
ใครจะอ่านหมดวะ” เหล่าบรรดาเพื่อนๆ ร้องครวนคราง
เสียงของกลุ่มข้างๆ ทำให้ จองฮัน หันไปมองอย่างสนใจ ตอนนี้ท้องเขาแทบจะกินชีทบนโต๊ะอยู่แล้ว อยากไปด้วยจัง
แค่คิดก็...
“เราไปด้วยดิ” ปากไวกว่าความคิด
“ครับ?” คนผิวเข้มข้างๆหันมามอง
ตาคม กับผมที่ถูกมัดจุกขึ้น ในความคิดจองฮันเหมือนลูกหมาเลยแหะ
“เราไปเซเว่นด้วยดิ
หิว...” จองฮันยิ้มตาหยีให้ ใครเจอยิ้มนี้เข้าไป ย่อมละลายตามเขาแน่นนอน ถึงจะโดนโจชัว
บอกว่ามันยิ้มการค้าก็เถอะ
“ได้ดิ ปะ”
มิงกยูเดินนำหน้าคนร่างบางชวนกันไปลงบันได เดินยืดแขนยืดขากันหน่อย...
บทสนทนากลุ่มเพื่อนของของมิงกยูที่พร้อมใจกันเงยหน้าจากองหนังสือตรงหน้าขึ้นมามองกันอย่างพร้อมเพียง
“ชิๆ
กูได้กลิ่นแปลกๆ”
“กลิ่นไรหรอ?”
“มิง”
“กูด้วย+”
.
.
กิน กิน ได้เวลากิน
จองฮันมีความสุขในหัวของเขาตอนนี้กำลังคิดถึงเมนูบนชั้นวางของเซเว่นแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นแซนวิชทูน่าหอมๆ หรือจะเป็นไข่ตุ๋นนุ่มๆ หรือข้าวปั่นเย็นบนนั้นดีละที่จะมาตกถึงท้องของเขา
มิงกยูที่มองคนข้างๆที่เดินไปด้วยฮัมเพลงไปด้วย
มีความสดใสที่แผ่กระจายมาถึงเขา คำว่าน่ารักลอยฟุ้งไปหมด
“เอ่อคือ...”
“หื้ม?”
“ชื่ออะไร?” พร้อมยื่นมือไปปัดผมให้คนข้างๆ
จองฮันตกใจเล็กน้อย
“เราชื่อจองฮัน ยูนจองฮันปีสาม”
“มิงกยู คิมมิงกยูปีหนึ่ง ไม่อยากเชื่อเลยนะเนี้ยว่าจะปีสามแล้ว”
“ทำไมอ่ะ?
เราน่าเด็กใช่มั้ยล่ะ มีแต่คนบอกแบบนั้น”
“หลงตัวเอง”
“กวนป่ะเนี้ย”
“เปล่าสะหน่อย เดินดีๆ สิครับ เดี๋ยวก็ลื่นตกไปหรอก”
จองฮันที่เอาแต่เดินบนขอบทางเท้าเหมือนเด็กจนมิงกยูอดเป็นห่วงไม่ได้ ถ้าลื่นลงไปคงเจ็บแน่ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า โอ๊ะ”
“ดื้อ มานี้เลย”
จองฮันเซไปตามแรงดึงของคนร่างสูงข้างๆ
ในตอนที่เขาก้าวเท้าพลาดเกือบลื่นตกไปตรงถนน เซจนชนกับแขนแกร่ง จองฮันมองตามแขนตัวเองไล่ไปถึงมือที่กำลังกำข้อมือเขาเอาไว้อย่างหลวมๆ
เขารู้สึกแปลกเหมือนกำลังจะตกหลุมรักใครบางคน เหมือนเวลาที่มองเค้กที่ชอบในตู้
เหมือนเวลาไปเจออะไรที่ถูกใจ เขาไม่ใช่คนที่ชอบอะไรง่ายๆ แต่กับคนที่กำลังจับข้อมือเขาตอนนี้กลับแตกต่าง
.
.
แอร์เย็นจากเซเว่นพัดปะทะร่างกายทำให้จองฮันหลุดจากห้วงความคิดเรียกสติกลับมาหลังจากตกอยู่ในความคิดตัวเองมาสักพักใหญ่
มิงกยูปล่อยข้อมือเขา แยกออกไปซื้อของให้ทั้งเพื่อนและตัวเอง
จองฮันไม่รอช้าตรงเข้าไปซื้อขนมปังและไข่ตุ๋น
“กินเหมือนเด็ก”
“เด็กตรงไหน”
“ที่ถืออยู่ไง เหมือนเด็ก”
“ไม่สะหน่อย งั้นนายก็กินเหมือนคนแก่”
“หึ” จองฮันส่ายหน้าเล็กน้อย ถือว่าความรู้สึกเมื่อกี้เป็นโมฆะก็แล้วกันเด็กนี้มันกวนเกินที่เขาจะเอาร่างเล็กๆของตัวเองไปปะทะได้
หน้าเหมือนลูกหมาไม่พออย่าบอกนะว่านิสัยก็เหมือนหมา หมาที่ไม่เชื่องเลย
หลังจากรอของเขาเวฟเสร็จมิงกยูก็ลากเขามานั่งใสส่วนของสวนข้างหอสมุดเพื่อจะจัดการกับขนมปังและไข่ตุ๋นของเขา
ส่วนมิงกยูนั่งดูดเจลลี่อยู่ข้างๆ จองฮันกินขนมปังไปสักพักใหญ่เขาพึ่งจะนึได้ว่าตัวเองลืมซื้อน้ำมา
แถมกระบอกน้ำลายกระต่ายก็อยู่บนโต๊ะที่อ่านหนังสือ
“หิวน้ำหรอ?”
“รู้ได้ไง”
“ทำหน้างอยเป็นกระต่ายโดนแย่งแครอทไปได้ อ่ะ”
มิงกยูยื่นขวดน้ำลิตรให้
“ขอบคุณ”
“พี่น่ารัก”
“...”
“ไม่ต้องมาทำหน้าสงสัยเลย ผมแค่บอกว่าพี่น่ารัก”
“รู้แล้วน่า แค่แปลกใจทำไมอยู่ ๆถึงชม”
“พี่แค่น่ารัก แค่นั้นแหละกินไข่ตุ๋นหน่อยสิ”
“ไหนบอกอาหารเด็ก”
“กินหน่อยสิครับ นะครับ” สายตาอ้อนจากลูกหมาตัวใหญ่ตรงหน้าทำให้จองฮันแพ้
เขาแพ้สายตานั้น
“พี่มีแฟนรึยัง?”
“ยัง... ถามทำไมจะจีบหรอ?”
“อืม”
“บ้า เราพึ่งรู้จักกันเองนะ”
“พี่ไม่รู้ว่ามีคนนั่งมองพี่อ่านหนังสือตั้งแต่วันแรก”
“พี่พึ่งมาอ่านที่หอสมุดมั้ยละ เวอร์”
“วันก่อนหน้านั้นที่อ่านอยู่ใต้คณะวิศวะ”
“รู้ได้ไง?”
“อย่ารู้เลย ตกลงจีบได้มั้ย?”
มิงกยูมองจองฮันด้วยสายตาที่หนักแน่นจนจองฮันรู้สึกว่ามือไม้มันเกะกะไปหมดและนี้คงเป็นประโยคสนทนาเริ่มต้นความสัมพันธ์ของมิงกยูและจองฮัน
.
.
หลังจากนั่งบริจาคเลือดให้ยุงได้สักพักมิงกยูก็พาจองฮันกลับมาโซนอ่านหนังสืออีกครั้งพร้อมเอาของที่เหล่าเพื่อนฝากซื้อให้ไป
จองฮันกลับไปนั่งที่เดิม พร้อมถูมือเบาๆอีกครั้ง หนาว แต่สักพักก็ได้รับรู้ถึงความอบอุ่นจากเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ที่มาคลุมหัว
พอหันไปมองข้างๆก็พบมิงกยูที่นั่งอยู่ มิงกยูพยักหน้าให้เขาใส่เสื้อจองฮันจัดการทันที
เจ้าเด็กนี้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มอะไรทำไมเสื้อหอมได้ขนาดนี้
“มิงมึงรู้จักพี่เขา?” คำถามที่เหมือนส่งตัวแทนมาถามหลุดมาจากปากเพื่อนหน้าแมวของเขาพร้อมอีกสองคนที่นั่งทำหน้าสงสัยอยู่
“อืม เมื่อกี้”
“ใช่คนเดียวกับที่เขาบอกเป็นแฝดพี่โจชัวปะ?”
“ใช่”
“ร้าย” คำอวยพรจากหมิงฮ่าวมาก่อนเพื่อนก่อนที่ทั้งโฮชิและวอนนูจะมองด้วยสายตาล้อเลียน
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ตัดฉับไว้ก่อนเดี๋ยวมาลงต่อ ขอเวลานุ้งเคลียรายงานแลปก่อน พอจบจากช็อดบรรยายแล้วเรามีช็อดจอยต่อด้วยนะ อิอิ ฝากติดตามกันด้วยน้าาาาาาา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น